วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่4

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560 เวลา 14.30-17.30 น.



     ♠สื่อการเล่นเพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย

     "สื่อ" หมายถึง สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเด็ก คือ สิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต หรือสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้น สิ่วเหบ่่านี้เมื่อเด็กได้พบเห็นหรือจับต้องก็จะทำให้เกิดการเรียนรู้ ทั้งมีส่วนช่วยให้เด็กพัฒนาทางกาย อารมณ์-จิตใจ สังคมและสติปัญญา
   
     ☂ลักษณะของสื่อ
ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ได้แบ่งสื่อออกเป็น 3 ประเภท
     1)สื่อการสอนประเภทวัสดุ(ใช้แล้วหมดไป) สามารถจำแนกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้2กลุ่ม 
        - วัสดุการสอนที่ครูจัดืำหรือจัดหามา เป็นสิ่งที่ดีที่สุดถ้าเราจะนำมาใช้ในการสอน
        - วัสดุการสอนที่มีผู้จัดทำจำหน่าย เช่น สิ่งพิมพ์ ภาพชุด เทปโทรทัศน์ เทปเสียง
     2)สื่อการสอนประเภทอุปกรณ์(คงทน ถาวร) เช่น เครื่องเสียง อุปกรณ์ประกอบเครื่องฉาย
     3)สื่อการสอนประเภทวิธีการ แบ่งออกเป็น 9 ประเภท
        - การสาธิต(เด็กเข้าใจได้ง่ายที่สุด)
        - การทดลอง
        - เกม
        - การแสดงบทบาทสมมติ
        - การจำลองสถานการณ์
        - การฝึกปฏิบัติจริงหลังการสนทนาเนื้อหา
        - ทัศนศึกษา
        - กิจกรรมอิสระ
        - กิจกรรมที่จัดขึ้นตามโครงการ

     ความสำคัญของสื่อการสอนระดับปฐมวัย
1)สื่อเป็นหัวใจสำคัญของการจัดกจกรรมเตรียมความพร้อมให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง
2)สื่อช่วยให้เด็กได้เรียนรู้จากสิ่งที่เป็นรูปธรรมและเกิดมโนทัศน์ตรงกับข้อเท็จจริง
3)ช่วยสร้างความสนใจของเด็กและเป็นสิ่งเร้าให้เด็กสนใจที่จะทำกิจกรรมและเกิดการเรียนรู้ได้ดี
4)ช่วยให้เด็กจดจำสิ่งต่างๆได้ง่ายและไม่ลืม
5)ช่วยอธิบายสิ่งที่อยากให้เข้าใจง่าย ช่วยให้คุณภาพการเรียนรู้ดีขึ้น
6)ช่วยให้เรียนรู้ได้เร็ว ใช้เวลาอธิบายน้อย เรียนรู้ได้ปริมาณมาก
7)ช่วยสร้างเจตคติที่ดีให้กับเด็ก
8)สื่อเป็นสิ่งเร้าที่เด็กสามารถช้ประสาทสัมผัส
9)ช่วยส่งเสริมการคิดและการแก้ปัญหา
10)สื่อช่วยให้เด็กเกิดจินตนาการ
11)สื่อช่วยตอบสนองความสนใจ อยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติ
12)เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ครูพัฒนาเด็กได้อย่างเต็มศักยภาพ
13)ช่วยให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กดีขึ้น
14)ช่วยพัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในด้านต่างๆ
15)เป็นศูนย์รวมความสนใจเด็กและทำให้บทเรียนน่าสนใจ

     ☞ลักษณะของสื่อการสอนระดับปฐมวัย
1)สอดคล้องกับพัฒนาการเด็ก
2)มีขนาดเหมาะสมกับเด็กและขนาดมือเด็ก
3)มีคุณค่าต่อพัฒนาการด้านต่างๆ
4)ใช้ประสาทสัมผัสได้มากและหลายส่วน
5)มีสีสันสวยงาม สดใสไม่สะท้อนแสง
6)ทนทาน ไม่แตกหักง่าย และไม่แหลมคม
7)มีรายละเอียดน้อย ง่าย เหมาะสมกับวัย
8)มีลักษณะเป็นมิติ จะทำให้เด็กสนใจและเข้าใจได้ดี
9)สื่อต้องสอดคล้องกับเรื่องที่เด็กสนใจ
10)ต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือปรับรูปแบบได้

     ۩การจัดระบบสื่อเพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
1)การเลือกสื่อ
→มีความปลอดภัย ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ต้องทำด้วยวัสดุที่ไม่เป็นพิษ พื้นผิวของวัตถุเรียบ ขนาดและน้ำหนักเหมาะสม
→คำนึงถึงประโยชน์ที่เด็กได้รับ ต้องเร้าให้เด็กอยากรู้อยากเห็น กระตุ้นพัฒนาการและประโยชน์ที่มีต่อกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหว
→ความประหยัด ค่าใชจ่ายในการผลิตไม่สูงเกินไป
→ด้านประสิทธิภาพ ใช้ได้หลายอย่างและหลายโอกาส และต้องทำให้เด็กได้ประสบการณ์ตรง
2)วิธีการเลือกสื่อ 
→เลือกให้ตรงกับจุดมุ่งหมาย
→ต้องเหมาะสมกับวัยและความสามารถ
→เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น
→มีวิธีการใช้ง่ายๆและใช้ได้หลายวิธี
→ถูกต้องตามเนื้อหาและมีความทันสมัย
→มีคุณภาพดี
→สื่อต้องทำให้เด็กเข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน
→ต้องเป็นสื่อที่สามารถสัมผัสได้
→เลือกสื่อเพื่อใช้ฝึกและส่งเสริมการคิด
→เลือกสื่อให้เหมาะสมกับเวลาที่ใช้

     ☃หลักการผลิตสื่อการเรียนการสอน
1)สำรวจความต้องการในการใช้สื่อ
2)วางแผนในการผลิต
3)ผลิตตามรูปแบบที่ได้วางแผนไว้
4)ทดสอบคุณสมบัติของสื่อที่ผลิตขึ้น
5)นำสื่อที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปใช้จริง
     ขั้นตอนการใช้สื่อ
- เตรียมตัวครู
- เตรียมตัวเด็ก
- เตรียมสื่อ

     ۞การนำเสนอสื่อ
→สร้างความพร้อมและเร้าความสนใจเด็ก
→ใช้สื่อตามลำดับขั้นของแผนการจัดกิจกรรม
→ควรอยู่ด้านข้างหรือด้านหลังของสื่อและไม่ควรยืนหันหลังให้เด็ก
→ไม่ควรให้เด็กเห็นสื่อหลายๆชนิดพร้อมกัน
→เปิดโอกาสให้เด็กร่วมกิจกรรมในการใช้สื่อนั้น
→ควรสังเกตหรือให้ความสนใจคำถาม คำพูดของเด็ก

     ♬การประเมินการใช้สื่อ
→สื่อนั้นช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้เพียงใด
→เด็กชอบสื่อชนิดนั้นเพียงใด
→สื่อช่วยให้การสอนนั้นได้ตรงกับจุดมุ่งหมาย
→สื่อนั้นช่วยให้เด็กสนใจมากน้อยเพียงใดและสนใจเพราะเหตุใด

     ♪การเก็บรักษาและซ่อมแซมสื่อ
●ควรตรวจสอบสื่อหลังจากที่ใช้แล้วทุกครั้ง
●ฝึกให้เด็กช่วยกันเก็บรักษาสื่อของครู
●เก็บสื่อให้เป็นระเบียบและเป็นหมวดหมู่
●ฝึกให้เด็กหยิบสื่อออกมาใช้ได้เองและเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
●ควรซ่อมแซมสื่อที่ชำรุด

    สื่อเพื่อการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย  
   ของเล่น คือ สิ่งของหรือวัสดุ,อุปกรณ์ที่นำมาให้เด็กเล่นบางทีก็เรียกว่า เครื่องเล่น ซึ่งของเล่นหรือเครื่องเล่นนั้นเป็นสื่อที่ช่วยให้เด็กได้รู้จัก ได้ใช้ได้จัด ได้กระทำ หรือประดิษฐ์คิดสร้าง
          ของเล่นแบ่งออกเป็น
   1) ของเด็กเล่น2) เครื่องกีฬา3) เครื่องดนตรี

     การจัดประเภทของเล่นตามทฤษฎีเชิงรู้คิดของเพียเจท์
1.ประเภทที่เด็กเล่นเพื่อการรับรู้
2.เรียนรู้ด้วยวิธีใช้ความคิด หาวิธีลองทำเพื่อแก้ปัญหา
3.ประเภทที่ช่วยให้เด็กได้ลงมือทำ                                                                                 
4.ของเล่นที่เด็กเลียนแบบและการแสดงบทบาท
5.การเล่นเพื่อพัฒนาภาษา

     การเลือกของเล่นเพื่อความปลอดภัย
   เด็กจะต้องคลุกคลีและใช้อวัยวะสัมผัสกับของเล่นอยู่ตลอดเวลาจึงควรระมัดระวังและพิจารณาในแง่ของความปลอดภัยให้มาก จึงอาจพิจารณาได้ในส่วนต่างๆ ดังนี้     1)วัสดุที่ใช้ผลิต
     2)ส่วนประกอบ
     3)โครงสร้าง

     ♥คุณสมบัติของของเล่นที่ดี

●ผู้เล่นมีโอกาสใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ
●เหมาะสมกับอายุ พัฒนาการ
●ควรใช้ในกิจกรรมการเล่นหลายๆแบบ
●ช่วยฝึกการเคลื่อนไหวของส่วนต่างๆ
●ต้องกระตุ้นให้เด็กได้เล่นเป็นกลุ่ม
●มีความปลอดภัยทำจากวัสดุปราศจากพิษ
●สามารถนำมาเล่นได้เอง
●มีความแพร่หลาย เด็กๆนิยมกันทั่วไป

     ☺วัตถุประสงค์ของการเล่นที่ใช้เครื่องเล่นของเด็ก
1.เพื่อความเพลิดเพลิน
2.เพื่อพัฒนาการทางร่างกาย
3.เพื่อพัฒนาการด้านอารมณ์

     ☏การเลือกเครื่องเล่นที่ปลอดภัย
●ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องเล่นที่มีคุณสมบัติที่ดี
●ควรมีคำอธิบาย คำแนะนำแสดงไว้
●ควรพิจารณาเลือกประเภทให้ถูกต้องตามความเจริญเติบโต
●ทำความสะอาดง่าย

     ◊ทฤษฎีและพัฒนาการเล่นของเด็กปฐมวัย
     การเล่นเป็นโอกาสที่เด็กจะได้ศึกษาสิ่งแวดล้อมรอบตัว มีความเข้าใจสิ่งแวดล้อมและสังคม ช่วยให้เด็กเกิดการปรับตัวให้เข้ากับสังคมและอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ทั้งนี้ รูดอล์ฟ ได้สรุปไว้เป็นองค์ประกอบของการเล่นได้ 3 ประการ ดังนี้
     1.การเล่นนำไปสู่การค้นพบเหตุผลและความคิด
     2.การเล่นเป็นการเชื่อมโยงระหว่างเด็กกับสังคม
     3.การเล่นเป็นการนำเด็กไปสู่ภาวะความสมดุลทางอารมณ์

     ☀ความสำคัญของการเล่น
     เพียเจท์ได้กล่าวเอาไว้ว่า การเล่นมีความสำคัญต่อพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก จากการเล่นเด็กจะสามารถแยกแยะสิ่งต่างๆจากสิ่งเร้าได้และขณะที่เด็กตอบสนองสิ่งเร้าเด็กจะรับรู้สิ่งต่างๆเขามาในสมอง
      1.บทบาทของการเล่น คือ การระบายอารมณ์
      2.การเล่นช่วยให้เข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม
      3.การเล่นเป็นการเรียนรู้ทางสังคม

      ♟พัฒนาการและการเล่นของเด็ก
➴อายุ0-2ปี 
เป็นการเล่นแบบทารก เด็กจะใช้ตัวและอวัยวะไปสัมผัสกับสิ่งต่างๆเพื่อรับรู้และมีการกระทำที่ซ้ำๆ
➴อายุ2-3ปี 
เป็นขั้นการเล่นที่ใช้สัญลักษณ์ เด็กวัยนี้จะมีพัฒนาการทางสติปัญญาเพิ่มขึ้นมีความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น ร่างกายมีความสามารถเพิ่มขึ้น
➴อายุ3-6ปี
เป็นการเล่นที่สื่อความคิด เด็กจะเล่นด้วยการสมมติตนเอง สิ่งของหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆแทนของจริง วัยนี้เด็กจะเริ่มเล่นเป็นกลุ่ม มีความคิดและจินตนาการในการเล่นที่แสดงออกถึงการเรียนรู้ทางสังคม

      พฤติกรรมการเล่นของเด็ก
1.การเลียนแบบ(Imitation)
2.การสำรวจ(Exploration)
3.การทดสอบ(Testing)
4.การสร้าง(Construction)

     ▪ประโยชน์ของการเล่น
     ซูซาน ไอแซค ได้ศึกษาวิจัยผลของการเล่นที่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับเด็กปฐมวัย ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้
    1.ทำให้เกิดการเรียนรู้
     2.ช่วยส่งเสริมความสามารถทางการคิดและสติปัญญา
     3.ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางสังคม
     4.ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์
     5.ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย

สรุป
     เครื่องเล่นของเด็กมีความสำคัญในการพัฒนาร่างกายและจิตใจของเด็กและเยาวชน บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ควรศึกษาและให้ความสนใจในเรื่องเครื่องเล่นพอสมควร 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น